มีพื้นที่ประมาณ 50,000 ไร่
ในเขตอำเภอสิรินธรและอำเภอโขงเจียมภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขาเตี้ยๆ
สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าแพะหรือป่าแดงต้นไม้ในป่ามีลักษณะแคระแกรน
บางส่วนเป็นทุ่งหญ้าได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13
กรกฎาคม 2524 ที่ทำการอุทยานฯตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูลบริเวณแก่งตะนะ
การเดินทางสามารถไปได้สองเส้นทางคือใช้ทางหลวงหมายเลข 217
(อุบลราชธานี-พิบูลมังสาหาร-ช่องเม็ก ประมาณ 75
กิโลเมตร)แล้วแยกซ้ายไปตามเส้นทาง 2173 อีก 13
กิโลเมตรส่วนอีกเส้นทางหนึ่งคือใช้ทางหลวงหมายเลข 2222
ผ่านอ.โขงเจียมประมาณ 4 กิโลเมตรแล้วข้ามแม่น้ำมูลไปอีก 12
กิโลเมตรหรืออาจใช้เส้นทางที่ข้ามสันเขื่อนปากมูลก็ได้(กรณีที่เขื่อนเปิด)
ในเขตอุทยานฯมีสถานที่ท่องเที่ยวดังนี้
ดอนตะนะ เป็นดอนหรือเกาะที่เกิดขวางแม่น้ำมูลมีความ กว้างประมาณ 450 เมตร ยาวประมาณ 700 เมตร มีสะพานแขวนทอดข้ามทั้ง 2 ด้านของเกาะทางตอนเหนือของดอนตะนะมีหาดทรายเหมาะแก่การพักผ่อนบนดอนตะนะยัง มีป่าอยู่ทั่วไปเป็นสภาพป่าดงดิบแล้งมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นในช่วงเช้า และช่วงเย็นจะมีการทำประมงของชาวบ้านรอบๆเกาะ แก่งตะนะเป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุดกลางแก่ง ตะนะมีโขดหินมหึมาเป็นเกาะกลางลำน้ำมูลที่เกิดจากลำน้ำมูลทั้งสองสายที่ เชี่ยวกรากและจะกัดเซาะลงในแนวหินสูงประมาณ1 เมตร ถ้าสังเกตเกาะกลางแก่งตะนะจะเห็นสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยมซึ่งสร้างขึ้นใน สมัยฝรั่งเศสยังล่าอาณานิคมเพื่อใช้เป็นเครื่องชี้ร่องน้ำในการเดินเรือนอก จากนี้ยังมีโพรงถ้ำใต้น้ำหลายแห่งจึงทำให้มีปลามาอาศัยบริเวณแก่งตะนะชุกชุม ช่วงที่เหมาะในการไปเที่ยวคือเดือนมกราคม-พฤษภาคมจุดชมวิวแก่งตะนะที่บริเวณ ที่ทำการอุทยานฯ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวแก่งตะนะฝั่งซ้าย(อีกด้านหนึ่งของแม่น้ำมูล) ที่บริเวณทางไปถ้ำเหวสินธุ์ชัย สะพานแขวนเป็นสะพานที่เชื่อมจากฝั่งแม่น้ำมูลดอนตะนะโครงสร้างเป็น เหล็กยึดโยงด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นจุดชมวิวสองฟากฝั่งของแม่น้ำมูล เหนือแก่งตะนะและใช้เดินข้ามเข้าไปชมธรรมชาติบนดอนตะนะได้อย่างเพลิดเพลิน ถ้ำพระหรือถ้ำภูหมาในเป็นชะง่อนผายื่นออกจากฝั่งแม่ น้ำมูล อดีตเคยมีพระพุทธรูปทองคำเงินและไม้เป็นจำนวนมากแต่ใน ปัจจุบันได้หายไปแล้วมีแท่นศิวลึงค์(ฐานโยนี)และแนวอิฐซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้าง ในราวศตวรรษที่ 12-13 ลานผาผึ้งเป็นพลาญหินทรายและเป็นหน้าผาชันโดยหน้าผาจะหันหน้าสู่ ด้านทิศตะวันออกเหมาะแก่การชมวิวช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและสามารถมองวิวประเทศ ลาวได้ลานผาผึ้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 1.5 กิโลเมตรรถยนต์เข้าถึงหรือจะเดินเท้าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติเลียบฝั่งแม่ น้ำมูลได้เช่นกัน เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกรากไทร อยู่บริเวณหน้าผาริมแม่น้ำมูลห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 500 เมตร มีเส้นทางเดินเลียบผาระยะทางประมาณ1 กิโลเมตร ผ่านจุดชมพืชพันธุ์ ไลเคนส์ มอส เฟิร์น ถ้ำพระและน้ำตกรากไทรเหมาะสำหรับการเดินป่าชมธรรมชาติในช่วงเวลาสั้นๆ น้ำตกตาดโตน ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 2173 ซึ่งแยกจากทางหลวงหมายเลข 217 เข้าไปประมาณ 6 กิโลเมตรเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่ง เกิดจากลำห้วยตาดโตนไหลผ่านลานหินแล้วตกลงสู่ที่ลุ่ม เกิดเป็นแอ่งน้ำสามารถลงเล่นน้ำได้มีน้ำเย็นใสสะอาดบริเวณโดยรอบเป็นป่าไม้ และดอกไม้นานาพรรณ ค่าเข้าอุทยานฯผุ้ใหญ่ คนละ 20 บาท เด้ก คนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ คนละ 100 บาท เด็กคนละ 50 บาท บริเวณที่ทำการอุทยานฯมีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวรายละเอียด ติดต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 หรือที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะโทร. 0 4524 9802, 0 4244 2002 www.dnp.go.th แหล่งข้อมูล: thai.tourismthailand.org |
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น